วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

MY FAVORITE MOVIE : Shichinin no SAMURAI!


หลังจากโดนหลายคนต่อว่ามา ว่า ของกินตร๊อด เราเลยต้องเข้ามาแก้ข้อครหานั้นเสีย นอกจากเรื่องของกิน เราก็ชอบเรื่องอื่นเป็นเหมือนกัน อย่างหนึ่งที่เราชอบมากคือการได้ดูหนังดีๆ อย่างสบายอารมณ์ หนังดีของเรานั้นไม่จำเป็ฯต้องมีเอ็ฟเฟ็คแพรวพราว หากมีเนื้อหาดี การถ่ายทำที่ดีล่ะก็ ใช่เลยยย หนังที่เราชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง และเราได้มานำเสนอในวันนี้ เป็นภาพยนตร์อมตะ ตลอดกาล นั่นคือ แต่น แตน แต๊นนนนนนยนนน
Shichinin no samurai หรือ SAMURAI SEVEN เพื่อนๆคนไม่รู้จักกัน เพราะเห็นหนังของญี่ปุ่น และยิ่งกว่านั้น หนังเรื่องนี้มีอายุกว่า 50 ปี (แก่กว่าแม่เราอีก) แต่เราขอบอกได้เลยว่า หนังเรื่องนี้ อมตะ จริงๆ ไม่เหมือนหนังไทยไก่กาที่หลอกเงินคนดู ที่ให้เข้าโรงไปดูแล้วรู้สึกเสียกะตังเปล่าๆ เอาไปหาไรกินยังคุ้มกว่า(อย่าเพิ่งว่าเรามีแต่เรื่องกิน) เข้าเรื่องเลย...
หนังเรื่องนี้เป็นหลงานของ Akira Kurosawa ซึ่งเป็นผู้กำกับระดับปรมาจารย์เลยก็ว่าก็ได้ ซึ่งเขาก็ฝากผลงานชั้นยอดไว้มากมาย อย่างเช่น RASHOMON และMADADAYO เป็นต้น โดยหนังเรื่องนี้เป็นหนังเก่าที่เป็น หนังขาว-ดำ หลายคนอาจจะไม่ชอบเพราะดูยาก แต่เราว่า หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้มีเสน่ห์มาก ทำให้ได้อารมณ์ของภาพ ที่ออกมาดูสวยและดูเข้ากับอารมณ์ของเนื้อเรื่อง
ตัวหนังเป็นเรื่องราวของ ซามูไร 7 คน ผู้เห็นความถูกต้องเหนือเงินทอง โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็กในหุบเขาที่มีอาชีพหลักคือการทำนา ปลูกข้าว แต่ทว่า พวกเขากลับไม่เคยได้กินข้าวที่ตัวเองปลูก เลย เพราะมีกลุ่มโจรที่เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวจะมาขูดรีด เอาข้าวอันแสนมีค่าไปจากชาวนาผู้ไม่มีทางสู้ เมื่อชาวบ้านเริ่มทนไม่ไหว ผู้เฒ่าของหมู่บ้านจึงตัดสินใจให้ชาวบ้านจ้างซามูไรมาปกป้อง โดยใช้เพียงข้าวเป็นค่าจ้างแก่เหล่าซามูไร คนของหมู่บ้านจึงออกเดินทางเข้าเมืองเพื่อหาว่าจ้าง ซามูไรผู้มีฝีมือ แต่สังคมเมืองช่างโหดร้าย กลับมีแต่ซามูไรเห็ฯแก่ตัวมาทำทีสนใจ หลอกกินข้าว แล้วก็ชิ่งหนีไป จนเมื่อ มีเหตุการณ์ชิงตัวประกัน เกิดขึ้น มีซามูไรคนหนึ่งยอมแม้โกนผมตัวเองทำทีเป็นพระ แล้วหลอกล่อสังหารโจร แล้วชิงทารกน้อยที่เป็นตัวประกันคืนมาได้ พวกชาวบ้านจึงติดตามและขอให้ช่วย จนสุดท้าย ซามูไรผู้มากความสามารถ นาม คัมเบ
ก็ตกลงปรงใจช่วยเหลือ แต่เขาต้องออกหาซามูไรมีฝีมืออีก6คน รวมตัวเขาเป็น7 เพื่อต่อกรกับโจรเหล่านั้น จนในที่สุดก็ได้ซามูไรครบ 7 คน 7น ที่ ต่างกันออกไป แต่ก็มีอุดมการณ์ ยอมรับทำงานที่ดูเป็นไปไม่ได้ และมีค่าตอบแทนเพียงน้อนิด เป็นเพียงอาหารจากชาวบ้าน...
นี่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น.. เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ใครสนใจ ติดต่อได้เลย มีDVDให้ยืมได้
ซึ่งอากิระ ยังแอบเสียดสีสังคมมาในหนังด้วย ที่เกี่ยวกับคนเห็นคุณค่าของเงิน มากกว่าความถูกต้องโดยใช้ซามูไรในอุดมคติทั้ง7คนนี้...
(เสริมให้ลองดูภาพข้างล่างนี่ที่เป็นธง นี่คือธงที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ของพวกเขา โดยมีความหมายแอบแฝงอยู่ ซึ่ง ตัวอักษรด้านล่างนั้นหมายถึงนาข้าว ที่เป็นตัวแทนของชาวนา วงกลม 6 วงนั่นหมายถึงซามูไร 6 คน ส่วน สามเหลี่ยมนั่นหมายถึง ซามูไรอีกคน ที่จริงๆเค้าไม่ใช่ซามูไร อดีตเป็นลูกหลานชาวนา แต่อยากเป็นซามูไร และคนนี้จะมีบุคคลิก บ้าๆบอๆเลยใช้สัญลักษณ์ที่แปลกออกไป) และสิ่งที่แสดงถึงคุณภาพหนังอันล้นปรี่นี้ก็คือ หนังเรื่อง The Magnificent Sevenซึ่งเป็นหนังของตะวันตก ที่เอาเรื่องราวของseven samuraiมาทำใหม่ และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ก็มีการทำออกมาเป็นฉบับการ์ตูนเนื่องในโอกาสครบ50ปี โดยใช้ชื่อเรื่องว่า Samurai 7

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2552

MY FAVORITE!!!








หลายคนคงเดาว่าสิ่งที่เราชอบคือ อาหาร! เราก็ขบอกเลยว่า มุนผู้นั้นเดาถูกครับ แต่สำหรับเราแล้ว ใช่ว่าอาหารทุกชนิดจขึ้นทำเนียบอาหารที่เราชอบ แต่วันนี้ราขอเสนอ อาหารที่เราคิดว่าอร่อยที่สุดในประเทศไทย นั่นก็คือ "อาหารอีสาน" ของเรานี่เองแหละ สำหรับเราแล้วอาหารอีสานแหละ อร่อยที่สุด(แม้หลายคนจะไม่เห็นด้วย) ยิ่งกินกันเป็นหมู่คณะ ยิ่งอร่อย! หลายคงคิดว่า อาหารอีสาน สกปรก มีแต่อะไรไม่รู้ ซึ่งเราก็ไม่เถียง(บางคนบอกอร่อยตรงมันสกปรกนี่แหละ55+) แต่เราก็ว่ามันเป็นอาหารที่มีประโยชน์ แถมมันน้อยดีต่อการลงความอ้วน55+ แล้วมันก็อุดมด้วยพืชผักที่มีประโยชน์ แถมราคาเบาๆ และบรรยากาศร้านเป็นกันเอง งั้นเรามาเริ่มรู้จักอาหารอีสานต่างๆกันดีกว่าอย่างแรกครับที่รู้จักกันดีคือ"ส้มตำ"อย่างที่รู้ๆกันครับ มีต้นกำเนิดไม่แน่ชัดโดยน่าจะมาจาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของไทยและ ประเทศลาว ส่วนมากจะทำโดยนำมะละกอดิบที่ขูดเป็นเส้น มาตำในครกกับ มะเขือเทศลูกเล็ก ถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้ง พริก และกระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ปูดองหรือปลาร้า ให้มีรสเปรี้ยว เผ็ด และออกเค็มเล็กน้อย นิยมกินกับข้าวเหนียวและไก่ย่าง โดยมีผักสด เช่น กะหล่ำปลี หรือถั่วฝักยาว เป็นเครื่องเคียง ส้มตำแบบต่างๆ
  • ส้มตำไทย ไม่ใส่ปูและปลาร้า แต่ใส่กุ้งแห้งและถั่วลิสงคั่วแทน รสชาติออกหวานและเปรี้ยวนำ บางถิ่นอาจใส่ปูดองเค็มด้วย เรียกว่า ส้มตำไทยใส่ปู
  • ส้มตำปู ใส่ปูเค็มแทนกุ้งแห้งและถั่วลิสงคั่ว รสชาติออกเค็มนำ
  • ส้มตำปลาร้า ใส่ปลาร้าแทนกุ้งแห้ง นิยมรับประทานกันมากในภาคอีสาน
  • ตำซั่ว ใส่ทั้งเส้นขนมจีนและเส้นมะละกอ นิยมรับประทานกันมากในภาคอีสาน
  • ตำป่า ใส่ผักหลายชนิด เช่น ผักกระเฉด ผักกาดดอง ปลากรอบ ถั่วลิสง ถั่วงอก ถั่วฝักยาว รวมถึงหอยแมลงภู่ จะนิยมรับประทานในภาคอีสาน
  • ตำโคราช ใส่เครื่องปรุงผสมระหว่างส้มตำไทยและส้มตำปลาร้า คือใส่ทั้งกุ้งและปลาร้า
  • ส้มตำไข่เค็ม ใส่เครื่องปรุงผสมระหว่างส้มตำไทยและไข่เค็ม ไม่ใส่ปูดอง ทำให้ส้มตำมีน้ำข้น รสชาติกลมกล่อมพอดี เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบส้มตำเผ็ดจัด

นอกจากนี้ ยังมีบางที่ นำเอาผักหรือผลไม้ดิบ อย่างเช่น มะม่วงดิบ ใส่แทนมะละกอดิบ เรียกว่า "ตำมะม่วง," กล้วยดิบ เรียกว่า "ตำกล้วย," แตงกวา เรียกว่า "ตำแตง," ถั่วฝักยาว เรียกว่า "ตำถั่ว," และแครอทดิบ เป็นต้น ถ้าใช้ผลไม้หลายๆ อย่างเรียกว่า ตำผลไม้

นอกจากนี้ยังมีการใส่วัตถุดิบอย่างอื่นลงไป เช่น ใส่ปูม้าเรียกว่า ส้มตำปูม้า ใส่หอยดองเรียกว่า ส้มตำหอยดอง


ต่อมาก็เป็น"ลาบ"อาหารยอดฮิตอีกอย่างหนึ่ง
โดยนำเนื้อมาสับให้ละเอียดแล้วคลุกกับเครื่องปรุง โดยเนื้อที่มาทำลาบเป็นเนื้อหลายชนิด เช่น เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อวัว เนื้อควาย เนื้อปลา และ เนื้อหมูลาบนกก็มี และยังลาบสัตว์จำพวกกวาง เช่น ละมั่ง กระจง เก้ง ก็นำมาลาบ ลาบนิยมกินคู่กับข้าวเหนียว
ลาบอีสาน
เป็นลักษณะอาหารประเภทยำ ปรุงแต่งรสชาติด้วย น้ำปลา มะนาว และ โรย ข้าวคั่ว(พริกผง) (ใบสระแหน่) (ใบหอม) (ใบมะกรูด)

และที่เรามักสั่งกันไม่เคยขาดคือ"น้ำตก" ไม่ใช่น้ำตกที่เราไปเที่ยวกันนะ แต่น้ำตกนี้คือ อาหารที่คล้ายลาบ แต่เรามันใช้เนื้อสัตว์เป็นชิ้น จะอร่อยมากถ้าใช้คอหมูย่าง 55+
และเมนูยอดฮิต ยอดอร่อยอีกอย่าง ที่ถูกใจคออาหารอีสานทุกเพศทุกวัย นั่นคือ "ไก่ย่าง" และ "คอหมูย่าง" และ "ไส้กรอกอีสาน"

จากที่ว่ามาเพื่อนๆก็ได้รู้จักอาหารที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย กันมาพอสมควรแล้ว เราก็อยากให้เพื่อนๆหันมาบริโภคของไทย อุดหนุนคนไทยนะคับ (คนไทยก็มีดี ถ้าเราไม่ช่วยกันแล้วใครจะช่วยครับบบบ)

นทพ.เฉลิมฤทธิ์ ID13

วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552

ชอบไอ้ภาพพวกนี้จัง











เราไม่รู้ว่าเพื่อนๆมีความเห็ฯว่าไงบ้างนะ แต่เราชอบนั่งดูภาพพวกนี้จัง

วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

HAPPY NEW YEAR 2009

HAPPY NEW YEAR 2009

ก็ขอให้คนที่เข้ามาอ่าน และไม่ได้เข้ามาอ่าน
มีความสุขมากๆนะ ตอดปี และตลอดไป

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2551

GEN PETS



อันนี้ไม่รู้เคยมีใครเห็นรึยัง(แต่เราเพิ่งเจอ)

จากที่เรา่อ่านมาครั้งแรก GEN PETS มันคือของเล่นยุคใหม่ ที่เกิดจากกระบวนการ Zygote Micro Injection แล้วก็เติบโตขึ้นในแล็บ เป็นการผสมและปรับแต่ง DNA จากสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่าง ๆ ออกมาเป็น Genpets

ดังนั้น Genpets จึงมีชีวิตจริง ๆ หายใจได้ มีเลือด กระดูก และกล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าโดนบาดหรือตัดออก ก็จะมีเลือดไหลออกมา และถ้าดูแลผิด Genpets นี้ก็จะตายได้เหมือนกับสัตว์ทั่วไป หากเสียชีวิตก็นำไปฝังดินเช่นเดียวกันสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ หรือจะส่งกลับไปที่ศูนย์บริการของบริษัทก็ได้ Genpets นี้ไม่ต้องใช้ถ่านหรือแบตเตอรี่ เนื่องจากมันมีชีวิตจริง แหล่งพลังงานของของ Genpets ก็คือ life monitoring devices ที่อยู่ในแพ็จเกจของ Genpets เอง


อ่านทีแรกก็ตกใจเลย มันจะล้ำอะไรขนาดน้านนนน แต่แอบน่ากลัว มันเป็นของเล่นได้ยังไงว้าาาา้

แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อเราผ่านการเรียนวิชาBIO ETHICS มันทำให้เราคิดว่า มันจะเป็นไปได้ยังไงวะ
จึงต้องมาหาข้อมูลก่อนเราจะเชื่ออะไร แล้วก็เจอจนได้

สรุปแล้วมันคือผลงานศิลปะของหนุ่มชาวแคนาดา นามว่า Adam Brandejs ซึ่งเป็นผลงานเชิงเสียดสีวิทยาการทางวิทยาศาสตร์(มันช่างน่าทึ่งอะไรอย่างนี้ ไอเดียแแมร่งสุดยอดจริงๆ) ซึ่งเค้าตั้งใจให้มันดูไม่น่าเชื่อ เพื่อให้เราได้คิดๆๆๆตาม โดยในกรณีนี้เป็นเรื่องของเทคโนโลยีชีววิศวกรรมที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน อันเป็นเทคโนโลยีที่นำหลักการทางวิศวกรรมมาเป็นแกนในการศึกษาและพัฒนาระบบ ชีววิทยาสมัยใหม่ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ทางด้านชีวภาพและการแพทย์ เช่น ผิวหนังสังเคราะห์ หรืออวัยวะเทียม เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีชีววิศวกรรมนี้เกิดขึ้นแล้ว และพวกเราพร้อมหรือยังที่จะรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น...งานประติมากรรม ชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพื่อความสนุกแต่อย่างใด

Adam Brandejs ผลิต Genpets ด้วยสองมือ ผสมผสานตั้งแต่พลาสติก ยาง โฟม กระดาษ ไมโครชิป มอเตอร์ แผงวงจร ไฟฟ้า ระบบหุ่นยนต์ และคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์

"Genpets" เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า หากวันหนึ่งในท้องตลาดเกิดมีสินค้าประเภทสิ่งมีชีวิตบรรจุอยู่ในหีบห่อ สามารถซื้อขายได้ สามารถใช้แล้วทิ้งได้ คุณจะคิดอย่างไรและอยากเป็นเจ้าของสินค้านั่นไหม เป็นโจทย์ที่ Adam Brandejs ตั้งขึ้น "ผมไม่ได้ต่อต้านเทคโนโลยีชีววิศวกรรม แต่ผมเพียงแค่ลังเลใจ เกี่ยวกับใครจะเป็นผู้ใช้เทคโลโลยีนี้ และใช้ที่ไหนและใช้อย่างไร" เขาแสดงความเห็นส่วนตัวอันเป็นที่มาของงานชิ้นนี้ที่เขาต้องการทดสอบแนวโน้ม ของผู้คลั่งสัตว์เลี้ยงกับเทคโนโลยีนี้ที่นับวันจะเป็นจริงมากยิ่งขึ้น

ไม่รู้เพื่อนๆอ่านแล้วรู้สึกไงบ้างเนอะ แต่เราว่ามันน่ากลัวอ่ะ ถ้ามีคนทำอย่างงี้ออกมาขายจริงๆ

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ตามคำเรียกร้อง



หลังจากการสอบอันหฤโหด ที่เทียบไม่ได้กับรุ่นพี่ๆนั้น เราก็ต้องมีการคลายเครียดบ้าง อะไรบ้าง

จะมีอะไรดีไปกว่าการดูหนัง (จริงมั๊ย?)

ซึ่งหนังที่ดูจะเข้ากระแสที่สุดก็คือ " ฝัน หวาน อาย จูบ "

และหลังจากการต่อแถว อันยาวนาน (และยังต้องลงทะเบียนเพราะใช้โปรโมชั่น80บาท)

ซึ่งเราก็ว่ามันเป็นหนังที่ดีนะ แต่มันอาจจะดูไม่ค่อยคุ้นที่จะดูโรงง(รึป่าว)
ซึ่ง ดูๆแล้ว เราชอบจริงๆ 2 เรื่อง คือ หวาน กับ อาย
แต่เรื่องสุดท้ายนี่สิ shock อารม การ์ตูนได้อีก แต่ก็ฮา แบบน่ารักๆดี
และที่shockอีกอย่าง คือ เพื่อนเราเป็นนางเอกทำไมไม่มีใครรู้มาก่อนเลย555+
และหนังแนวนี้คิดว่าถ้าไม่จบจุฬาฯ คงไม่สามารถทำออกมาได้จริงๆ

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

วันแรก ของการ มีบล็อก!เป็oของตัวเองงงง

สวัสดีทุกคนครับบบบบทุกคน ที่เข้ามา
หรือไม่มีคนเข้ามา555+ ชักเพ้อ

ยังไง วันนี้ เราก็มี บล็อก!อันแรกเป็นของตัวเอง

เริ่มรู้สึกสนุกกับการมีblog